Privacy Policy

TERMS OF SERVICE

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของ GB Prime Pay

   ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้เป็นการให้บริการการบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ค่าสินค้า และ/หรือ บริการผ่านบริการใดๆบนแพลตฟอร์มของ GB Prime Pay โดยผู้ประกอบกิจการขายสินค้า และ/หรือ ให้บริการ ให้รวมถึงบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียก “ผู้ใช้บริการ) กับ บริษัท เซ็นดิท เทค จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ให้บริการ”) โดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  

ข้อ 1. คำนิยาม

   1.1 “เครื่องมือเพื่อการทำรายการ” หมายถึง โทรศัพท์มือถือ และ/หรือ แท็บเล็ต และ/หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมืออื่นที่สามารถทำรายการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

   1.2 “บริการ หรือ บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายถึง ระบบการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในการชำระเงิน ค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ รวมถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต

   1.3 “รหัสประจำตัว” หมายความถึง Login Name หรือ Username, รหัสผ่าน (Password) , Pin (Person Identification Number) , ลายนิ้วมือ , ใบหน้าทาง , เทคโนโลยีทางชีวภาพ (Biometric) , รหัสผ่านเพื่อใช้งานอุปกรณ์เพื่อการทำรายการ, รหัส OTP – One Time Password รวมถึงรหัสอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใด ๆ และไม่ว่าจะเป็นรหัสที่ผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนดให้หรือเป็นรหัสที่ผู้ใช้บริการเป็นผู้กำหนดเองก็ตาม

   1.4 “เหตุสุดวิสัย” หมายความถึง เหตุไม่จำเป็นต้องรับผิดสำหรับการผิดนัด ความล่าช้า หรือความล้มเหลวในการปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำของธรรมชาติ สงคราม หรือสาเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่สมเหตุสมผลของภาคีดังกล่าวโดยตรง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ไฟไหม้ น้ำท่วม องค์ประกอบของธรรมชาติ (2) การระบาดหรือการสภาวะสงคราม การจลาจล หรือการก่อการร้าย (3) ความล้มเหลวของอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม ไฟฟ้าขัดข้องหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ล้มเหลว (4) ข้อพิพาทแรงงาน หรือ (5) การกระทำหรือการละเว้นของหน่วยงานของรัฐที่ห้ามหรือขัดขวางฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ข้นี้ (เรียกรวมกันว่า "เหตุสุดวิสัย") หากเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยขึ้น จะได้รับการยกเว้นจากการปฏิบัติตามภาระผูกพันที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่อไปตราบเท่าที่เหตุการณ์เหตุสุดวิสัยยังคงดำเนินต่อไปและเฉพาะในขอบเขตของเหตุการณ์เหตุสุดวิสัยดังกล่าว

  

ข้อ 2. หลักเกณฑ์การขอใช้บริการ

   2.1 ผู้ใช้บริการที่ประสงค์ใช้บริการกับผู้ให้บริการจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ต้องไม่เป็นผู้วิกลจริต หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือตกเป็นบุคคลล้มละลาย หรือถูกพิทักษ์ชั่วคราวหรือเด็ดขาด หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือเป็นผู้มีคดีต้องโทษทางกฎหมาย ในกรณีที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมตามกฎหมาย มิเช่นนั้นผู้แทนโดยชอบธรรมต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแทนผู้เยาว์

   2.2 ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้ตกลงและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ และ/หรือ ดำเนินการใดๆ ตามที่ผู้ให้บริการกำหนด โดยผู้ใช้บริการต้องผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้ ทั้งนี้ให้รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆที่ปรากฏขึ้นในอนาคต และ/หรือ ระหว่างที่ผู้ใช้บริการทำรายการ

   2.3 ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณา การสมัครขอใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงปฏิเสธให้เข้าถึงแพลตฟอร์ม หรือ บริการไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม การพิจารณาการอนุมัติให้เป็นไปตามดุลพินิจของผู้ให้บริการเท่านั้น

   2.4 ผู้ใช้บริการต้องทำรายการตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ให้บริการกำหนดผ่านช่องทางที่กำหนด หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น หรือช่องทางอื่นที่ผู้ให้บริการได้เปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า

  

ข้อ 3. ความสมบูรณ์ของการใช้บริการ และผลผูกพันผู้ใช้บริการ

   3.1 การดำเนินการใด ๆ โดยผ่านระบบบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ เป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและยอมรับระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ รวมทั้งผู้ใช้บริการรับรองว่าเอกสาร ภาพถ่าย และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ที่ผู้ให้บริการได้รับจากผู้ใช้บริการเป็นเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้และถูกต้องแท้จริงเสมือนเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรทุกประการ และใช้บังคับได้ระหว่างผู้ใช้บริการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง

   3.2 ผู้ใช้บริการรับรองว่า ภาพถ่าย เอกสาร และ/หรือข้อมูลใด ๆ ที่ผู้ให้บริการได้รับ และ/หรือ จะได้รับในภายหน้าจากผู้ใช้บริการ เป็นข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นจริงทุกประการ โดยผู้ให้บริการจะมีการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบฐานข้อมูลของผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการ และ/หรือ การใช้ทำธุรกรรม ในกรณีที่ผู้ให้บริการพบ หรือ ได้รับแจ้ง หรือ สงสัยว่า ภาพถ่าย เอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้บริการไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่เป็นจริง ผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิไม่ให้บริการ หรือระงับ หรือยกเลิกการใช้บริการและ/หรือบริการอื่นเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น หากผู้ใช้บริการได้รับความเสียหายใดๆ จากการให้บริการโดยใช้หรืออ้างอิงข้อมูลดังกล่าว ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชดใช้ต่อผู้ให้บริการในความเสียหายดังกล่าว

   3.3 การกระทำใดๆ ที่ผู้ใช้บริการใช้งานผ่านเครื่องมือเพื่อทำรายการ หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัว ให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์และผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น และผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้ใช้บริการเองหรือผู้ใช้บริการให้บุคคลใดใช้รหัสประจำตัว โดยผู้ใช้บริการยอมรับว่าการใช้รหัสประจำตัวถือเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายให้มีผลบังคับใช้เสมือนกับว่าได้ลงชื่อด้วยตนเองของผู้ใช้บริการ

   3.4 ผู้ให้บริการอาจเรียกให้ผู้ใช้บริการจัดทำเอกสารตามรูปแบบที่ผู้ให้บริการร้องขอ และ/หรือนำส่งเอกสารให้แก่ผู้ให้บริการ ภายในระยะเวลาอันสมควร

   3.5 ผู้ใช้บริการไม่สามารถ เปลี่ยนแปลง หรือระงับ หรือ ยกเลิกรายการโอนเงิน หรือ รายการชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ หรือ รายการธุรกรรมใด ๆ ภายหลังจากที่ผู้ใช้บริการได้มีคำสั่งจัดส่งการทำธุรกรรมรายการนั้นๆ ให้แก่ผู้ให้บริการแล้ว

   3.6 กรณีผู้ให้บริการได้ดำเนินใดๆการตามคำสั่งของผู้ใช้บริการในการทำธุรกรรมผ่านบริการนี้ ถือว่าผู้ให้บริการได้ให้บริการโดยถูกต้องครบถ้วนและมีผลผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ ทั้งนี้ผู้ให้บริการไม่ต้องคืนเงินค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และ/หรือ ค่าใช้จ่ายใด ๆที่ผู้ให้บริการได้รับชำระไว้แล้วไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ทั้งสิ้น

   3.7 กรณีที่ผู้ใช้บริการได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ให้ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ยังคงมีผลใช้บังคับแก่ผู้ใช้บริการที่ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้นๆ ด้วยทุกประการ

   3.8 ผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการอื่นๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกี่ยวกับการใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์นี้ตามอัตราและเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการกำหนด

   3.9 ผู้ใช้บริการตกลงให้ผู้ให้บริการมีสิทธิ เพิ่ม ลด หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ รวมทั้งค่าธรรมเนียม และ/หรือ ค่าใช้บริการ และ/หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เกี่ยวกับการใช้บริการนี้ตามแต่จะเห็นสมควร โดยผู้ใช้บริการตกลงผูกพันปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ และ/หรือ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทุกประการ

   3.10 การให้บริการของผู้ให้บริการและการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ไม่ถือว่ามีความสัมพันธ์เป็นบริษัท หุ้นส่วน ผู้ร่วมลงทุน หรือเป็นตัวการและตัวแทนซึ่งกันและกัน ผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิหรืออำนาจใดๆที่จะก่อนิติสัมพันธ์หรือทำการยอมรับข้อตกลงใดๆ ในนามของผู้ให้บริการ ทั้งนี้ไม่ว่าชัดแจ้งหรือโดยปริยายก็ตาม และไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้น

   3.11 ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้มีไว้เพื่อแจ้งการให้บริการของผู้ให้บริการต่อผู้ใช้บริการ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลหรือนิติบุคคลกลุ่มใด เว้นแต่บริษัทของผู้ให้บริการและบริษัทในเครือของผู้ให้บริการ ทั้งนี้ให้รวมถึงผู้รับช่วงและผู้รับมอบหมายของของบริษัทผู้ให้บริการ

   3.12 ผู้ใช้บริการขอรับรองและรับประกัน ดังนี้

     (ก) ผู้ใช้บริการต้องบรรลุนิติภาวะ (และในกรณีของผู้เยาว์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ปกครองตามกฎหมาย) มีสิทธิและความสามารถกระทำการใดๆตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้

     (ข) ผู้ใช้บริการจะใช้บริการนี้โดยมีวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและปฏิบัติตามข้อกำหนดและตามเงื่อนไขการให้บริการนี้

     (ค) ผู้ใช้บริการจะใช้บริการบนเครื่องมือเพื่อการทำรายการของตน หรือต้องได้รับการอนุญาตโดยเจ้าของอุปกรณ์แล้วเท่านั้น เท่านั้น

     (ง) ผู้ใช้บริการจะใช้บริการโดยสุจริตตามกฎหมายซึ่งรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงินหรือการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

     (จ) ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบในการชำระเงินภาษี อากร หรือการจัดเก็บค่าใช้จ่าย หรือ ค่าธรรมเนียมอื่นๆของผู้ให้บริการ และ/หรือ ของรัฐที่อาจถูกกำหนดในบริการแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงใน อนาคตที่อาจมีเพิ่มเติม

   3.13 ผู้ใช้บริการขอรับรองว่าเป็นผู้เสนอขายสินค้า และ/หรือ บริการ โดยนำเสนอรายละเอียดของสินค้า และ/หรือ บริการดังกล่าวผ่านช่องทางของตน และ/หรือ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดให้แก่ผู้สนใจทั่วไป โดยให้ชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการโดยวิธีการที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งความประสงค์กับผู้ให้บริการ ทั้งนี้ประเภทของธุรกิจ สินค้า และ/หรือ บริการ ต้องไม่ละเมิดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรม กฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล หรืออาจส่งผลกระทบใดๆ ต่อภาพลักษณ์ หรือ กระทำการใดๆ ทำให้ผู้ให้บริการเสื่อมเสียชื่อเสียง

   3.14 ผู้ใช้บริการขอรับรองว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ ไม่ทำการซื้อขาย สินค้า และ/หรือ ให้บริการใดๆที่จัดอยู่ในประเภทของผลิตภัณฑ์ยาอันตราย หรือยาควบคุมพิเศษ หรือ ยาที่ต้องสั่งจ่ายตามคำสั่งแพทย์ หรือ เครื่องมือแพทย์ หรือจัดให้มีการพนันใด ๆ หรือให้บริการใด ๆ ที่เกี่ยวกับสื่อภาพอนาจาร หรือ บริการหาคู่ หรือ ขายสินค้าประเภทบุหรี่และสิ่งเสพติดใดๆ หรือ การขายหรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพลง ภาพยนตร์ ซึ่งผู้ใช้บริการไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือ ไม่มีในการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือ สินค้า และ/หรือ บริการใด ๆ ที่จะมีในอนาคตที่อาจเป็นการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และ/หรือ กฎหมาย และ/หรือศีลธรรม สาธารณะ ภายหลังหากผู้ให้บริการมีการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำการฝ่าฝืน ผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิยกเลิกและยุติการให้บริการทันที ทั้งนี้ในกรณีเกิดความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับจากวันที่ผู้ให้บริการได้มีการแจ้งไปยังผู้ใช้บริการ

   3.15 ผู้ใช้บริการขอรับรองว่าการสินค้า และ/หรือ การให้บริการใดๆ แก่ลูกค้าของตนตามช่องทางที่ได้โฆษณาไว้ หากเกิดข้อผิดพลาด หรือ เกิดความเสียหายจากการโฆษณาดังกล่าว ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง ทั้งนี้ทางผู้ให้บริการไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่มีส่วนรับผิดชอบจากการกระทำของผู้ใช้บริการ

   3.16 ผู้ใช้บริการขอรับรองว่าธุรกรรมใดที่ลูกค้าของผู้ใช้บริการได้กระทำผ่านบริการของผู้ให้บริการ ให้ถือว่าเสมือนว่าเป็นการทำธุรกรรมระหว่างผู้ใช้บริการกับลูกค้าของผู้ใช้บริการโดยตรง

   3.17 ผู้ใช้บริการจะต้องจัดส่งสินค้า และ/หรือ บริการใดด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ชำรุดบกพร่อง และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้กับลูกค้าของตน โดยผู้ใช้บริการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ รวมถึงมีหน้าที่เก็บรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการตอบรับการส่งมอบสินค้า หรือ เอกสารรับประกัน หรือ หลักฐานการรับสินค้า ของลูกค้าผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 12 (สิบสอง) เดือน ผู้ให้บริการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผิดชอบต่อข้อบกพร่องอันเกิดขึ้นกับสินค้า และ/หรือ บริการระหว่างผู้ใช้บริการและลูกค้าของผู้ใช้บริการ

   3.18 กรณีที่ผู้ใช้บริการกำหนดให้มีการชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ เป็นอัตราสกุลเงินต่างประเทศ ผู้ใช้บริการตกลงให้ผู้ให้บริการโอนเงินให้ผู้ใช้บริการเป็นสกุลเงินบาทไทย โดยคำนวนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ลูกค้าของผู้ใช้บริการทำธุรกรรม โดยผู้ให้บริการจะยืนยันธุรกรรมดังกล่าวด้วยจำนวนเงินสุทธิหลังหักค่าธรรมเนียม และ/หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม และ/หรือค่าบริการอื่นใด ตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

   3.19 กรณีผู้ใช้บริการฝากร้านค้าของตนบนเว็บไซด์ของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องระบุข้อมูลดังต่อไปนี้อย่างชัดเจนบนเว็บไซต์เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้สนใจสินค้า และ/หรือ บริการ

     - ชื่อบริษัท หรือ ชื่อที่ผู้ใช้บริการใช้เป็นชื่อในการขาย สินค้า และ/หรือ บริการ

     - ราคาสินค้า และ/หรือ ราคาบริการต่อหน่วย

     - ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อแผนกบริการลูกค้า ได้แก่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์

     - ประเทศที่ผู้ใช้บริการมีสถานที่ตั้งอยู่

     - รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือ บริการที่นำเสนอขาย

     - เงื่อนไขการขายสินค้า และ/หรือ บริการ

     - สกุลเงินที่นำเสนอขาย

     - นโยบายการส่งสินค้า

     - นโยบายการยกเลิก การคืนสินค้า และ/หรือบริการ

   3.20 ผู้ใช้บริการรับรองว่าขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ลูกค้าของตนในราคาไม่สูงกว่าราคาที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด หรือราคาไม่สูงกว่าจากราคาที่คิดเป็นเงินสดที่คิดให้แก่ลูกค้าทั่วๆไป โดยผู้ใช้บริการจะไม่ขอให้มีการชำระเงินค่าบริการเก็บเพิ่มในส่วนของค่าธรรมเนียมที่ผู้ใช้บริการชำระแก่ผู้ให้บริการ และ/หรือ ค่าใช้จ่ายใดๆ ในลักษณะเดียวกัน หรือการที่ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตนั้นๆ และหากมีการให้บริการพิเศษใดๆ เช่น การให้ส่วนลด ของกำนัล สิทธิประโยชน์หรือของแถมแก่ลูกค้าทั่วๆไป ผู้ใช้บริการตกลงจะให้บริการนั้นด้วยเช่นกัน

   3.21 ผู้ใช้บริการจะต้องแสดงเครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์เป็นสมาชิกที่รับบัตรเครดิต หรือการชำระเงินอื่นใดตามรูปแบบที่ผู้ใช้บริการกำหนดบนเว็บไซต์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ได้โดยง่าย และชัดเจน ตลอดระยะเวลาที่ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้มีผลใช้บังคับหรือจนกว่าผู้ให้บริการจะแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ดังกล่าว และเมื่อสิ้นสุดของการให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องยกเลิกการใช้แสดงเครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์ หรือ โลโก้ใดๆบนเว็บไซต์ หรือ สื่ออื่นใดของผู้ใช้บริการ

   3.22 ผู้ใช้บริการมีหน้าที่เก็บรักษาเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับการขายสินค้า และ/หรือ การใช้บริการ รวมถึงเอกสารการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าของผู้ใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการต้องเก็บรักษาเอกสารไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี และผู้ใช้บริการตกลงที่จะเก็บหรือบันทึกข้อมูลทั้งหมดของการขายสินค้า และ/หรือ บริการที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมอย่างน้อย 12 (สิบสอง) เดือนนับจากวันที่ขายสินค้า และ/หรือบริการ ในกรณีที่ผู้ให้บริการหรือลูกค้าของผู้ใช้บริการมีความสงสัยหรือต้องการตรวจสอบข้อมูลสามารถขอให้ผู้ใช้บริการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมายังผู้ให้บริการทันที

   3.23 ผู้ใช้บริการรับรองว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ของผู้ทำธุรกรรม และ/หรือ ข้อมูลใดๆของผู้ให้บริการ กับบุคคลอื่นใดโดยไม่ได้รับอนุญาต ในกรณีมีความเสียหายเกิดขึ้น ผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น

   3.24 ผู้ใช้บริการรับรองว่าจะไม่นำบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้เปิดใช้บริการไว้กับผู้ให้บริการนี้ไปให้แก่ผู้อื่นใช้งาน เว้นแต่จะได้แจ้งและได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการ

   3.25 ผู้ใช้บริการต้องไม่มอบหมาย หน้าที่ สิทธิ และความรับผิดชอบ ในการใช้งานของระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการทำการช่วงข้อผูกพันใดๆกับบุคคลภายนอก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้บริการ

   3.26 ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบเงื่อนไขและข้อกำหนดของผู้ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับ กฎ กฎระเบียบ หรือข้อกำหนดใดๆ ของผู้ให้บริการ หากเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากผู้ใช้บริการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดฉบับนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว

   3.27 หากผู้ใช้บริการพบว่ามีการ ฉ้อโกง ละเมิด หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายใด ๆ เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการใช้บัตรเครดิต หรือการทำธุรกรรมด้วยวิธีใดๆ และผู้ใช้บริการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ทำธุรกรรมนั้นไม่ใช่เจ้าของบัตรเครดิต หรือเจ้าบัญชีที่แท้จริง ให้ถือว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นไม่สุจริต ผู้ใช้บริการจะต้องมีหน้าที่แจ้งข้อมูลให้ผู้ให้บริการทราบหรือหากผู้ให้บริการทราบภายหลังว่าผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้ทุจริตดังกล่าว ผู้ให้บริการสามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ใช้บริการได้รวมถึงผู้ใช้บริการต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ให้บริการ

   3.28 ผู้ใช้บริการเป็นผู้มีหน้าที่ออก ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน แสดงรายละเอียดการรับชำระเงิน ให้แก่ลูกค้าของผู้ใช้บริการ

   3.29 ผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าธรรมเนียม รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นใดอันเกิดจากใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ให้บริการตามอัตราที่ผู้ให้บริการกำหนด โดยผู้ให้บริการสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการตามที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน

   3.30 ผู้ใช้บริการรับทราบและยอมรับว่าการให้บริการของผู้ให้บริการเป็นเพียงตัวกลางในการอำนวยความสะดวกในการรับชำระเงินให้แก่ผู้ใช้บริการเท่านั้น กรณีที่มีการผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดความเสียหายไม่ว่าประการใดก็ตามที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการไม่มีความรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการ หรือบุคคลใดๆ ในความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการซื้อสินค้า และ/หรือ บริการใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ใช้บริการตกลงที่จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียว และจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายหรือการทดแทนใดๆจากผู้ให้บริการทั้งสิ้น

   3.31 ในกรณีที่ผู้ให้บริการไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการได้ ไม่ว่าด้วยกรณีใดก็ตาม เนื่องจากการการฝ่าฝืน หรือการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ โดยที่ผู้ที่ใช้บริการรับทราบดีว่าเกิดจากการให้บริการรับชำระค่าสินค้าและ/หรือ บริการของผู้ใช้บริการ อันเป็นเหตุให้ผู้ให้บริการถูกเรียกเก็บค่าปรับ และ/หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นๆจากทางราชการ และ/หรือ Visa International Service Association ,Mastercard International Incorporated ,Jcb International Company Limited ,China UnionPay Company Limited ,Amex สถาบันบัตรเครดิตอื่นๆ และ/หรือหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งมีสิทธิทางกฎหมายในการเรียกเก็บค่าปรับมายังผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชดใช้ค่าปรับ และ/หรือ ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ให้บริการทั้งสิ้น รวมถึงยินยอมให้ผู้ให้บริการปฏิเสธการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ใช้บริการ ในจำนวนเงินที่ผู้ให้บริการไม่สามารถเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการได้ เพื่อชำระค่าเสียหาย และ/ หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นใด พร้อมทั้งดอกเบี้ยทั้งหมดจากผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ให้รวมถึงบัญชีอื่นใดที่มีอยู่กับผู้ให้บริการ

   3.32 จากข้อ 3.31 ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการปฏิเสธการโอนเงินและยินยอมให้ผู้ให้บริการหักเงินจากบัญชีที่ผู้ใช้บริการได้ขอเปิดใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์กับผู้ให้บริการ หรือ บัญชีอื่นใดของผู้ใช้บริการที่มีอยู่กับผู้ให้บริการ( ซึ่งต่อไปนี้ให้เรียกว่า “บัญชีผู้ใช้บริการ” ) เพื่อเป็นการชำระหนี้ และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหาย และ/ หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นๆจากการฝ่าฝืนตามข้อกำหนดและเงื่อนไขให้บริการนี้ได้ทั้งหมด หากผู้ให้บริการดำเนินการหักเงินจากบัญชีผู้ใช้บริการแล้วปรากฏว่าไม่มีเงินคงเหลืออยู่หรือมีแต่ไม่พอให้ผู้ให้บริการหักชำระได้ครบถ้วน ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการนำหนี้ทั้งจำนวนนั้น หรือตามจำนวนที่คงเหลือหลังจากหักบัญชีผู้ใช้บริการแล้วนั้น ให้ถือเป็นเงินที่ผู้ใช้บริการได้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากผู้ให้บริการ และยินยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ ผู้ให้บริการหักบัญชีของผู้ใช้บริการจนกว่าจะชำระหนี้ให้ผู้ให้บริการเสร็จสิ้น

   3.33 จากข้อ 3.31 และ 3.32 ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้ทำการโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ผู้ใช้บริการแจ้ง ภายหลังปรากฏว่าผู้ใช้บริการมีข้อโต้แย้งกับลูกค้าของผู้ใช้บริการเอง เนื่องจากไม่ปฏิบัติไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ หรือ มีกรณีอื่นใดที่ผู้ให้บริการไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ ผู้ใช้บริการตกลงคืนเงินให้กับผู้ให้บริการ และ/หรือ ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมกับค่าธรรมเนียมอื่นใด (ถ้ามี) พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปี นับแต่วันที่ผู้ให้บริการได้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ผู้ใช้บริการไปจนกว่าผู้ใช้บริการจะชำระหนี้ให้ผู้ให้บริการเสร็จสิ้น

   3.34 ในกรณีที่ ผู้ใช้บริการ หรือพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของผู้ใช้บริการเป็นผู้กระทำทุจริต หรือมีส่วนในการให้ความร่วมมือกับกลุ่มผู้ทุจริต ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยทางตรง หรือ ทางอ้อม เป็นผลให้ผู้ให้บริการได้รับความเสียหาย หรือไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากลูกค้าของผู้ใช้บริการไม่ว่าด้วยประการใดๆ ผู้ใช้บริการยินยอมคืนเงิน และ/หรือ ให้ผู้ให้บริการหักเงินจากบัญชีผู้ใช้บริการได้ตามจำนวนเท่ากับที่ผู้ให้บริการได้รับความเสียหาย พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปี นับแต่วันที่ผู้ให้บริการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ผู้ใช้บริการจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ให้บริการที่จะฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่ว่าทางแพ่ง หรือ ทางอาญากับผู้ทุจริต ในกรณีของพนักงาน หรือ เจ้าหน้าที่ของผู้ใช้บริการเป็นผู้ทุจริต ผู้ใช้บริการตกลงจะให้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการ และหากปรากฏว่าผู้ให้บริการมิใช่ผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับผู้ทุจริตแล้ว ผู้ใช้บริการรับจะเป็นผู้ดำเนินคดีกับผู้ทุจริตจนถึงที่สุด

   3.35 ผู้ใช้บริการรับทราบว่ากรณีชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ ผ่านบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ให้บริการต้องมีการแจ้งข้อความกับลูกค้าของผู้ใช้บริการว่ามีการชำระเงินค่าสินค้า และ/หรือ บริการ ผ่านช่องทางที่ผู้ใช้บริการกำหนด

   3.36 ผู้ใช้บริการจะแจ้งผลการชำระค่าสินค้า และ/หรือ บริการ ของลูกค้าของผู้ใช้บริการแก่ผู้ใช้บริการตามวิธีการและช่องทางที่กำหนด โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบผลการชำระเงิน และ/หรือ หลักฐานการชำระเงินในวันเดียวกับกับที่มีรายการทำธุรกรรม

   3.37 ผู้ใช้บริการมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ เงินอื่นใด ตามภาระหน้าที่และตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ให้รวมถึงค่าธรรมเนียมใดที่เกิดจากการใช้บริการของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงเป็นผู้รับผิดชอบค่าอากรแสตมป์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด (ถ้ามี) ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้แต่เพียงผู้เดียว

  

ข้อ 4.การประมวลผลและการชำระเงิน

   4.1 ในระหว่างการใช้บริการ ผู้ใช้บริการทราบว่า ผู้ให้บริการอาจได้รับข้อมูลทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการใช้บริการ และข้อมูลใบแจ้งหนี้ เป็นต้น โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นความผิดชอบของผู้ใช้บริการแต่เพียงผู้เดียวว่ามีการทำคำสั่งการชำระเงินถูกต้อง และการประมวลผลคำสั่งการชำระเงินของผู้ใช้บริการจะถือเป็นที่สุด โดยผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องตรวจสอบคำสั่งการชำระเงินของผู้ใช้บริการอีก ทางผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายใดๆทั้งหมด ที่เกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ใช้บริการได้เลือกไว้

   4.2 ผู้ให้บริการเป็นเพียงตัวกลางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ทราบถึงข้อตกลงที่ทำขึ้นหรือ สิทธิ หรือ ข้อผูกพันใดๆ ระหว่างผู้ใช้บริการกับลูกค้าของผู้ใช้บริการ (“ข้อตกลงระหว่างลูกค้ากับผู้เรียกเก็บเงิน”) ในความสัมพันธ์ดังกล่าว ผู้ให้บริการไม่มีส่วนต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้ใช้บริการรับทราบว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการแต่เพียงผู้เดียว

  

ข้อ 5. ค่าธรรมเนียม ค่าดำเนินการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม

   5.1 ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการตามที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน

   5.2 ค่าภาษีอากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งค่าธรรมเนียมใดๆ อันจะพึ่งมีตามกฎหมาย ผู้ใช้บริการยินยอมรับผิดชอบแต่ฝ่ายเดียว ยกเว้นค่าใช้จ่ายอื่นใดซึ่งมิใช่ภาระของผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า

   5.3 ผู้ให้บริการจะดำเนินการหักค่าธรรมเนียม ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ (หากมี) จากใช้บริการของลูกค้าผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ใช้บริการภายในกำหนดวันที่ได้ตกลงกัน พร้อมทั้งผู้ใช้บริการต้องเป็นผู้รับผิดชอบชำระค่าธรรมเนียมการโอนออกแต่ละครั้งด้วย

  

ข้อ 6. การยกเลิกคำสั่งซื้อ

   6.1 ในกรณีที่ลูกค้าของผู้ใช้บริการมีการยกเลิกสินค้า และ/หรือ คืนสินค้า หรือ มีการยกเลิกการบริการ หรือ มีการลดราคาสินค้า และ/หรือ ลดราคาค่าบริการให้ในภายหลัง ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่คืนเงินโดยวิธีการโอนผ่านบัญชีธนาคาร (รวมถึงการโอนผ่านช่องทางอื่นใด) เงินสด ตั๋วเงิน หรือตราสารหนี้อื่นใด ด้วยตนเองเด็ดขาด ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบและดำเนินการคืนเงินค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ เข้าบัญชีบัตรเครดิตหรือช่องทางอื่นใดให้แก่ลูกค้าของผู้ใช้บริการด้วยวิธีการหรือช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนดเท่านั้น

   6.2 ในกรณีผู้ใช้บริการประสงค์ ยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ จากบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการคืนเงินได้ด้วยตนเอง โดยให้ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด

   6.3 ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้รับแจ้งจากลูกค้าของผู้ใช้บริการว่ามีการขอยกเลิกการซื้อสินค้า และ/หรือ การขอรับบริการใน ถ้าลูกค้าของผู้ใช้บริการพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รับสินค้าและ/หรือไม่ได้รับบริการ หรือ ได้รับแต่ไม่ตรงตามกำหนดเวลา หรือ ได้รับแล้วแต่ไม่ครบถ้วน มีการชำรุดบกพร่อง หรือ ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ผู้ใช้บริการยินยอมคืนเงินให้กับลูกค้า

  

ข้อ 7. มาตรการในการป้องกัน

   7.1 หากผู้ให้บริการได้ทราบว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ใช้บริการอาจมีการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย และ/หรือ เข้าข่ายความเสี่ยงสูงในการทุจริต ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาในการระงับการทำธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ร้านค้าในประเทศไทยหมายถึง ร้านค้าที่ขอใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จดทะเบียนในประเทศไทย และร้านค้าต่างประเทศ หมายถึง ร้านค้าที่ขอใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จดทะเบียนในต่างประเทศ

   7.2 ผู้ให้บริการอาจดำเนินการได้ตามสมควร หากผู้ให้บริการเห็นว่ามีเหตุจำเป็นในการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบัญชีผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการสามารถติดต่อลูกค้าของผู้ใช้บริการในนามของผู้ใช้บริการได้ หากพบว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการฉ้อโกงหรือการทุจริตเกิดขึ้น

   7.3 ในกรณีที่ผู้ให้บริการมีเหตุอันสงสัยเชื่อได้ว่าผู้ใช้บริการมีการดำเนินธุรกิจแตกต่างจากข้อมูลเดิมที่เคยแจ้งไว้กับผู้ให้บริการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการทุจริตเกี่ยวกับการทำธุรกรรม ผู้ให้บริการสามารถร้องขอและผู้ใช้บริการตกลงที่จะให้ข้อมูลอันเป็นจริงเกี่ยวกับธุรกิจที่ดำเนินกิจการของผู้ใช้บริการ หากพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจผู้ให้บริการจะประเมินคุณสมบัติอีกครั้งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการพิจารณาของผู้ให้บริการ

   7.4 ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้รับข้อมูลจากผู้ใช้บริการตามข้อ 7.3 หรือได้รับแจ้งในภายหลังว่าผู้ใช้บริการมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่ดำเนินการแตกต่างจากเดิมที่ได้ให้ไว้กับผู้ให้บริการ อีกทั้งธุร กิจดังกล่าวเป็นการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หรือ เป็นการฝ่าฝืนต่อกฏหมาย หรือ เข้าข่ายความเสี่ยงในการทุจริต ผู้ให้บริการสามารถดำเนินการยกเลิกการให้บริการกับผู้ใช้บริการได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และผู้ให้บริการสามารถดำเนินการคืนเงินให้แก่ลูกค้าของผู้ใช้บริการ ในระยะเวลาการคืนเงิน 30-45 วันทำการ

   7.5 เพื่อป้องกันการเกิดการทุจริต ในกรณีที่ผู้ให้บริการเห็นควรว่าต้องมีการตรวจสอบบัญชีผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมให้ ผู้ให้บริการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ได้เคยให้ไว้ได้โดยไม่ต้องแจ้งขอความยินยอมอีก ผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องค่าตอบแทน หรือ ค่าเสียหายใดๆ ความยินยอมนี้จะผลบังคับใช้อยู่ตลอดไป แม้จะมีการยกเลิกการใช้บริการแล้วก็ตาม

   7.6 ในการให้บริการ หากผู้ให้บริการพบว่ามีเหตุอันควรน่าสงสัยไม่ว่าจะเป็นจำนวนธุรกรรม หรือ จำนวนเงินของการสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการตรวจสอบ สอบถามข้อมูล หรือ ขอเอกสารรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ผู้ให้บริการสามารถปฏิเสธการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ใช้บริการ จนกว่าผู้ให้บริการทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ โดยให้ถือว่าเป็นสิทธิของผู้ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการยินยอมเพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องโดยไม่เรียกร้องสิทธิใดๆในภายหลัง

  

ข้อ 8. การระงับ/การยกเลิกให้บริการ

   8.1 หากผู้ใช้บริการมีความประสงค์ยกเลิก จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ให้บริการทราบไม่น้อยกว่า 60 (หกสิบ) วัน

   8.2 หากผู้ใช้บริการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ หรือดำเนินธุรกิจ กิจการเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือ มีพฤติกรรมอันน่าสงสัย หรือ เข้าข่ายอันเชื่อว่ามีการใช้บริการโดยทุจริต หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าด้วยประการใดๆ หรือผู้ใช้บริการเสียชีวิต หรือสาบสูญ หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือตกเป็นบุคคลล้มละลาย หรือถูกพิทักษ์ชั่วคราวหรือเด็ดขาด หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีเหตุจำเป็นอื่นซึ่งไม่อาจแจ้งผู้ให้บริการทราบได้ ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับ และ/หรือ ยกเลิกการให้บริการโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และให้ถือว่าบริการนี้สิ้นสุดลงทันที

   8.3 กรณีการใช้บริการนี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ไม่ถือว่าเป็นการยกเลิกภาระหน้าที่ใดๆ ซึ่งผู้ใช้บริการยังคงต้องปฏิบัติ และผูกพันตามที่ได้ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้กับผู้ให้บริการจนกว่าผู้ใช้บริการจะมีการปฏิบัติหรือดำเนินการใดๆ จนแล้วเสร็จ

   8.4 กรณีที่การใช้บริการนี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้ใช้บริการตกลงให้ผู้ให้บริการยังคงมีสิทธิหักเงินจากบัญชีผู้ใช้บริการเพื่อนำมาชำระหนี้ หรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ได้เกิดขึ้นจากใช้บริการ และผู้ใช้บริการจะคงบัญชีดังกล่าวไว้ จนกว่าจะมีการชำระหนี้เสร็จสิ้น

   8.5 กรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูล หรือ เอกสารปลอม หรือให้ข้อมูลเท็จ ผู้ให้บริการมีสิทธิในการยกเลิกการให้บริการได้ทันที ภายหลังหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ผู้ใช้บริการยินดีรับผิดชอบให้แก่ผู้ให้บริการและผู้เกี่ยวข้องทุกประการ

  

ข้อ 9. ลิงก์ไปยังไซต์ของบุคคลภายนอก

   9.1 ภายใต้การให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ ผู้ใช้บริการอาจเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆผ่านลิ้งก์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ การเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวให้ถือว่าผู้ใช้บริการเป็นผู้ยอมรับความเสี่ยงนั้นเอง การเข้าสู่เนื้อหา คำสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ ไม่ถือเป็นว่าความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ การจัดให้มีลิ้งก์ใดๆบนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการเป็นเพียงการอำนวยความสะดวกเท่านั้น การให้มีการรวมลิงก์ใดๆ ไม่ได้เป็นการแสดงชัดแจ้งในการเชื่อมโยง การรับรอง หรือการสนับสนุน ให้มีการกระทำการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

   9.2 ในบางกรณีการอาจพบว่ามีลิงก์ไปยังข้อความ หรือ วิดีโอและพอดแคสต์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ บริการ หรือลิงค์ในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ของบุคคลภายนอก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากการควบคุมโดยผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการไม่จำเป็นรับผิดชอบต่อเนื้อหา ฟังก์ชั่นการทำงาน ความปลอดภัย บริการ นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือการปฏิบัติอื่นๆ ของบุคคลภายนอก ทางผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบในกรณีใดก็ตามอันเนื่องมาจากการใช้งานของผู้ใช้บริการ

  

ข้อ 10. การเรียกร้องสิทธิจากการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

   10.1 หากผู้ใช้บริการพบว่า เนื้อหา ผลงาน หรือข้อมูลใดๆ (ตามที่รวมไว้ในบริการ) ถูกทำสำเนา แสดง หรือแจกจ่ายในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โปรดทำหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อ. 15

   10.2 ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งการเรียกร้องสิทธิที่ถูกละเมิด โดยจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่กำหนดไว้ด้านล่างและต้องรวมสิ่งต่อไปนี้อย่างครบถ้วน (ก) ลายมือชื่อจริงหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการแทนในนามของเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่ถูกกล่าวหาว่าถูกละเมิด พร้อมทั้งหนังสือมอบอำนาจ (ข) คำอธิบายสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา การระบุรูปพรรณว่าสิ่งใดในสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่อ้างว่าถูกละเมิด (ค) คำอธิบายชื่อสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่ละเมิดอย่างแน่ชัดและการละเมิดบนแพลตฟอร์ม (ง) ข้อมูลที่ผู้ให้บริการติดต่อกลับ เช่น ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมล เป็นต้น (จ) ถ้อยแถลงจากผู้ใช้บริการ การไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (ฉ) ถ้อยแถลงจากผู้ใช้บริการว่าข้อมูลได้ประกาศแจ้งถูกต้อง และได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในนามของเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา หรืออื่นๆที่เกี่ยวข้อง

   10.3 ผู้ใช้บริการทราบว่าผู้ให้บริการมีสิทธิตามกฎหมายของซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ และผู้ให้บริการได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ใช้บริการไม่มีในการคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ใช้ หรือ เผยแพร่ ในกรณีที่มีการละเมิดจะถือว่าผู้ใช้บริการละเมิดผู้ให้บริการและจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

  

ข้อ 11. การชดใช้ค่าเสียหาย

   11.1 ผู้ใช้บริการตกลงที่จะชดใช้ค่าเสียหาย รวมถึงปกป้อง ผู้ให้บริการ ผู้ถือหุ้น บริษัทย่อย บริษัทในเครือ กรรมการ เจ้าหน้าที่ ตัวแทน ผู้ร่วมแบรนด์ หรือหุ้นส่วนอื่น และพนักงาน (เรียกรวมว่า “ฝ่ายที่ได้รับการชดใช้”) ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ใช้บริการเพื่อให้ผู้ให้บริการพ้นจากการเรียกร้องสิทธิ การดำเนินการ การดำเนินคดี และการฟ้องร้องคดี รวมถึงหนี้สิน ความเสียหาย การชำระหนี้ บทลงโทษ ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ค่าธรรมเนียมทางกฎหมายตามสมควร และค่าใช้จ่ายในการยุติข้อพิพาทอื่นๆ) ที่เกิดแก่ฝ่ายที่ได้รับการชดใช้ อันเกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับ: (ก) การดำเนินงาน การจัดการ และ/หรือ การดูแลระบบบริการ โดยหรือในนามของผู้ให้บริการ (ข) การฝ่าฝืนหรือละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ รวมถึงนโยบาย หรือ แนวทางปฏิบัติอื่นใดที่อ้างถึง ณ ที่นี้ (ค) การใช้หรือใช้บริการในทางที่ผิด หรือ (ง) การละเมิดกฎหมายหรือสิทธิใดๆ ของบุคคลภายนอก

   11.2 ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้รับความเสียหายหรือถูกเรียกร้องให้รับผิดชอบต่อบุคคลที่สามอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ใช้บริการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้ หรือ กระทำการใดๆอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความเสียหายทุกประการ ผู้ให้บริการมีสิทธิปฎิเสธในการรับผิดชอบจากการกระทำของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกบัญชีผู้ใช้บริการทันทีหากผู้ใช้บริการไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้

   11.3 ในกรณีที่ผู้ให้บริการพบ และ/หรือ มีเหตุอันน่าสงสัยควรเชื่อได้ว่าผู้ใช้บริการมีการใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการเพื่อชำระหนี้ใด ๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้า และ/หรือ บริการ หรือมีความเสียหายใดที่เกิดขึ้นจากลูกค้าผู้ใช้บริการยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ หรือจากการไม่ได้รับสินค้า และ/หรือ บริการดังกล่าว หรือจากการที่สินค้า และ/หรือ บริการ ไม่ได้รับการส่งมอบตรงเวลา หรือสินค้า และ/หรือ บริการไม่สมบูรณ์ หรือมีข้อบกพร่องหรือไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการมีสิทธิปฏิเสธการโอนเงิน ค่าสินค้าและ/หรือ ค่าบริการที่ไม่สมบูรณ์ ไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการตกลงว่าจะไม่ยกข้อโต้แย้งใดๆต่อสู้กับผู้ให้บริการ ทั้งนี้หากผู้ให้บริการไม่สามารถระงับการโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการได้ทัน อันเนื่องมาจากได้รับแจ้งล่าช้าหรือเกิดเหตุสุดวิสัย ทางผู้ใช้บริการยังคงรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับผู้ให้บริการ

   11.4 ผู้ให้บริการขอให้ผู้ใช้บริการชำระค่าดอกเบี้ยอันเกิดจากความเสียหายที่ผู้ใช้บริการได้กระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไขจากให้บริการนี้ โดยคิดในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปี ของจำนวนเงินทั้งหมดที่ผู้ใช้บริการต้องชำระให้กับผู้ให้บริการ

   11.5 หากผู้ใช้บริการเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจ สินค้า และ/หรือ บริการที่นำเสนอ ขาย เปลี่ยนชื่อร้านค้าและ/หรือ ชื่อเว็บไซต์ นอกเหนือไปจากที่เคยได้แจ้งไว้กับผู้ให้บริการ และไม่ได้มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงกับผู้ให้บริการ ภายหลังหากเกิดความเสียหายกับบุคคลใด ทางผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว

   11.6 ในกรณีที่ผู้ให้บริการพบธุรกรรมการชำระเงินที่ไม่ถูกต้อง และได้ทักท้วงกับผู้ยังใช้บริการภายใน 3 (สาม) วันนับแต่วันที่แจ้งหากผู้ใช้บริการไม่ได้มีการตอบกลับใดๆ ให้ถือว่าผู้ใช้บริการรับทราบว่าจำนวนเงินทั้งหมดจากการทำธุรกรรมเป็นจำนวนเงินที่ถูกต้อง และภายหลังเกิดความเสียหายใดๆ ผู้ใช้บริการต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง

   11.7 ผู้ใช้บริการรับทราบว่าการทำธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อาจเกิดเหตุการณ์ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ เช่น มีผู้กระทำโดยการ หลอกลวง โกง หรือ การฉ้อโกง และผู้ใช้บริการอาจมีความเสี่ยงที่จะพบกับเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งผู้ใช้บริการรับทราบว่าอาจมีความเสี่ยงดังกล่าวเกิดขึ้นได้ โดยผู้ใช้บริการยอมรับในความเสี่ยงภัยนั้นเอง

   11.8 ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหาย และ/หรือ ความสูญหายที่เกิดกับบัญชีของผู้ใช้บริการ อันเนื่องจาก Malware หรือ Computer Virus หรือจากการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด บนเครื่องมือเพื่อทำรายการ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้บริการ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้บริการได้สูญหาย หรือถูกขโมย หรือผู้ใช้บริการถูกหลอกลวง หรือจากเหตุสุดวิสัย โดยผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งต่อผู้ให้บริการทราบทันที

  

ข้อ 12. ข้อกำหนดทั่วไป

   12.1 ผู้ให้บริการอาจแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ได้ตลอดตามความเหมาะสม โดยภายหลังจากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจะถือว่าผู้ใช้บริการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับแก้ไขนั้นแล้วด้วย

   12.2 ผู้ใช้บริการตกลงใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการ ผ่านการเชื่อมต่อ บนเว็บไซต์ หรือโมบายแอพพลิเคชั่น หรือ วิธีการอื่นใด ที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 (สอง) ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนาม

   12.3 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเปลี่ยนแปลงการใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ให้บริการรายอื่นก่อนกำหนดระยะเวลาสองปี ผู้ใช้บริการต้องชำระค่าเสียหายให้กับผู้ให้บริการ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ในทุกเดือน จนกว่าจะครบกำหนด 1 ปี

   12.4 ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดใบกำกับภาษีได้จาก www.gbprimepay.com และไปที่เมนู invoice ภายในวันที่ 1-7 ของเดือนถัดไป

   12.5 ผู้ใช้บริการมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ หรือ ช่องทางการติดต่อ หรือ ประเภทธุรกิจ สินค้า และ/หรือ บริการที่นำเสนอ ขาย ประสงค์เปลี่ยนชื่อร้านค้าและ/หรือชื่อเว็บไซต์ หรือข้อมูลใดๆ ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการเป็นลายลักษณ์อักษรทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน (สามสิบวัน)

   12.6 ผู้ใช้บริการรับทราบและยินยอมให้ผู้ให้บริการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนตามเห็นสมควร

   12.7 หนังสือบอกกล่าว รายงาน และการสื่อสารอื่นใด ทั้งภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ การส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือ การส่งทางอีเมลจะถือว่าผู้ใช้บริการได้รับและมีผลเมื่อมีการยืนยันการส่งมอบโดยบริการไปรษณีย์ หรือบริการจัดส่ง ยกเว้นการแจ้งที่ส่งทางอีเมลซึ่งจะมีผลในวันที่ส่งทันที การส่งหนังสือบอกกล่าว รายงาน หรือการสื่อสารอื่นใด หากผู้ให้บริการได้มีการนำส่งตามที่อยู่ที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งไว้ให้แก่ผู้ให้บริการ ให้ถือว่าเป็นการส่งเอกสารนั้นให้แก่ผู้ใช้บริการโดยชอบแล้ว

  

ข้อ 13. ความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการ

   13.1 บรรดาการกระทำใดๆ ที่ผู้ให้บริการได้กระทำไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ และ/หรือ ตามข้อมูลที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งต่อผู้ให้บริการ และ/หรือตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ และ/หรือ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการใด ๆ ไม่ว่าที่มีอยู่แล้วในขณะนี้หรือที่จะมีขึ้นภายหน้า ให้มีผลผูกพันผู้ใช้บริการทุกประการ และผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้บริการและ/หรือ ผู้รับเงิน และ/หรือ บุคคลใด ๆไม่ว่าจะโดยประการใดทั้งสิ้น

   13.2 ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้ให้บริการ หรืองดเว้นการให้บริการใดๆ แก่ผู้ใช้บริการ เมื่อเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ผู้ใช้บริการตกลงว่าผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดต่อผู้ใช้บริการ และ/หรือ บุคคลใดทั้งสิ้น

     (1) ผู้ขอใช้บริการมีเงินในบัญชีไม่พอ

     (2) อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย

     (3) ผู้ใช้บริการได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงความขัดข้องของการโอนเงิน และ/หรือ ชำระเงิน และ/หรือ ให้บริการ อยู่แล้วก่อนหรือในขณะที่ทำรายการโอนเงิน และ/หรือชำระเงิน และ/หรือ ใช้บริการนั้น

     (4) ผู้ขอใช้บริการไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขหรือข้อตกลงกับผู้ให้บริการ

     (5) เป็นเหตุสุดวิสัย

   13.3 กรณีการไม่ดำเนินการใดๆ ของผู้ให้บริการไม่ว่า ณ เวลาใด ที่จะบังคับใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ ไม่ส่งผลในทางใดต่อสิทธิของผู้ให้บริการในการดำเนินการดังกล่าวในภายหลัง เว้นแต่ผู้ให้บริการมีการสละสิทธิไว้เป็นลายลักษณ์อักษรโดยชัดแจ้ง

   13.4 ในกรณีเกิดความล่าช้าหรือการงดเว้นการกระทำใดๆของผู้ให้บริการอันเกิดจากการกระทำไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้บริการนี้ หรือเกิดจากเหตุสุดวิสัย ไม่ให้ถือว่าการกระทำของผู้ให้บริการเป็นการสละหรือยินยอมแก่ผู้ใช้บริการแต่อย่างใด

  

ข้อ 14. การเก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผยข้อมูล

   เอกสาร ข้อมูล รูปภาพ หรือแนวคิดใดที่ผู้ใช้บริการโพสต์บนหรือผ่านทางบริการใดๆของผู้ให้บริการ หรือส่งมายังผู้ให้บริการ ไม่ว่าด้วยวิธีใด (เรียกว่า “สิ่งที่ส่งมา”) ไม่ถือว่าเป็นความลับ โดยผู้ให้บริการและบริษัทในเครือของผู้ให้บริการอาจใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ โดยปราศจากการการโต้แย้ง หรือ ชดใช้ค่าเสียหาย หรือ การรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการ ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม รวมถึง การพัฒนา การผลิต และการทำตลาดผลิตภัณฑ์ ส่งมาแก่ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการทราบและตกลงว่าผู้ให้บริการ และ/หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ อาจพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชั่น อินเทอร์เฟส ผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวโดยอิสระ

   ทั้งนี้ ผู้ให้บริการจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้บริการให้สอดคล้องกับกฎหมายและเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยัน/พิสูจน์ตัวตนในการป้องกันอาชญากรรม การฉ้อโกง และการต้องสงสัยเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการก่อการร้ายหรือการฟอกเงิน โดยเป็นไปตามนโยบายของบริษัทและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

  

ข้อ 15. ข้อมูลการติดต่อและการส่งคำบอกกล่าว

   หากผู้ใช้บริการต้องการสอบถามข้อมมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งความผิดปกติใดๆ ในการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์บนแพลตฟอร์ม ตามช่องทางด้านล่าง

     15.1 ผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) : help@xendit.th

     15.2 ติดต่อข้อมูลการใช้งาน แจ้งปัญหา

       +66 (0)2-248-6240

     15.3 ติดต่อ IT การใช้งาน แจ้งปัญหา

     โปรดส่งหนังสือบอกกล่าวไปที่ compliance@gbprimepay.com และส่งถึง "แผนกกฎหมายและกำกับดูแล(Legal and Compliance Department)"

  

ข้อ 16. การแยกออกจากกันได้

   หากข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ข้อใดข้อหนึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือ ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือ เป็นโมฆะ หรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดภายใต้กฎหมาย ให้ถือว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวสามารถแยกออกจากกันได้ และไม่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของข้อกำหนดและเงื่อนไขในข้ออื่นๆ

  

ข้อ 17. กฎหมายที่ใช้บังคับ

   เงื่อนไขการให้บริการนี้จะอยู่ภายใต้บังคับและตีความตามกฎหมายของประเทศไทย และให้ศาลไทยที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการใช้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้

   หากมีเปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไข และข้อกำหนดการให้บริการฉบับนี้ ผู้ให้บริการจะแจ้งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขไว้บนแพลตฟอร์มนี้ โดยผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไข และข้อกำหนดการให้บริการได้ตลอดเวลา โดยถือว่าภายหลังการเปลี่ยนแปลงแก้ไขนั้น ผู้ใช้บริการได้รับทราบ และตกลงยอมรับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขของเงื่อนไขการให้บริการ

  

   ผู้ใช้บริการได้อ่านและตกลงยอมรับเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้บริการนี้ รวมถึงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว โดยการคลิกปุ่ม “ยอมรับเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้บริการหรือการกระทำอื่นใดในทำนองเดียวกัน” ซึ่งให้ถือว่าเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้บริการประสงค์ให้มีผลบังคับใช้เสมือนกับว่าได้ลงชื่อด้วยตนเอง ภายหลังผู้ให้บริการได้มีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมเงื่อนไขและข้อกำหนด และท่านยังคงใช้บริการของบริษัทย่อมถือว่ายอมรับการแก้ไขหรือเพิ่มเติมแต่ละครั้ง